หล่อน้ำสับปะรดสีชมพู! สัตว์น้ำที่มีชีวิตชีวาและรูปร่างแปลกประหลาด

หล่อน้ำสับปะรดสีชมพู (лат. Lamellodysidea herbacea) เป็นสมาชิกหนึ่งใน Demospongiae ซึ่งเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดของฟองน้ำ

ฟองน้ำชนิดนี้พบได้ทั่วไปในเขตน้ำตื้นและอุ่นในมหาสมุทรแปซิฟิก เช่น ทะเลแดง และ แหล่งน้ำตื้นตามแนวชายฝั่งของประเทศออสเตรเลีย ในสภาพแวดล้อมที่เป็นหินปูนหรือแนวปะการัง ฟองน้ำจะเกาะติดกับพื้นผิวแข็งเช่น หิน หรือ ปะการัง

ลักษณะเด่นและรูปร่าง

หล่อน้ำสับปะรดสีชมพู มีรูปร่างคล้ายกับพืชตระกูลบอนไซ โดยมีลำต้นทรงกระบอกที่แข็งแรง มีขนาดสูงได้ถึง 20 เซนติเมตร และ กว้างประมาณ 5-10 เซนติเมตร

ส่วนยอดของฟองน้ำจะมีลักษณะเป็นรยี่เปียดคล้ายกับสับปะรดขนาดเล็ก ซึ่งประกอบด้วยหนามแหลมและแผ่นบางๆ เรียงซ้อนกันอย่างเป็นระเบียบ

สีของหล่อน้ำสับปะรดสีชมพู มักจะเป็นสีชมพูอ่อน หรือ สีเหลืองอ่อนขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม และ ปริมาณแสงแดดที่ได้รับ

วิถีชีวิตและการดำรงอยู่

หล่อน้ำสับปะรดสีชมพู เป็นสัตว์น้ำที่ไม่มีชีวิตเคลื่อนไหว แต่สามารถสร้างอาหารด้วยตัวเองได้โดยกระบวนการของการสังเคราะห์แสง

ฟองน้ำจะดูดซึมน้ำทะเลเข้ามาผ่านรูพรุนขนาดเล็กบนผิวลำตัว และ แลกเปลี่ยนออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ เซลล์ในเนื้อเยื่อของฟองน้ำจะมีสีเขียวเนื่องจากมีสารคลอโรฟิลล์ที่ใช้ในการสังเคราะห์แสง

นอกจากการสังเคราะห์แสง ฟองน้ำยังสามารถดักจับอนุภาคอาหารขนาดเล็ก เช่น แพลงก์ตอน หรือ แบคทีเรีย ที่ลอยอยู่ในน้ำทะเลผ่านช่องทางรูพรุน

หล่อน้ำสับปะรดสีชมพู มีอายุขัยที่ค่อนข้างยาวนาน โดยเฉลี่ยแล้วอยู่ได้ประมาณ 20-30 ปี

ความสำคัญต่อระบบนิเวศ

ฟองน้ำชนิดนี้มีความสำคัญอย่างมากต่อระบบนิเวศ โดยทำหน้าที่เป็นแหล่งอาหารให้กับสัตว์ทะเล เช่น ปลา และ หอย

นอกจากนั้น ฟองน้ำยังช่วยในการกรองและทำความสะอาดน้ำทะเล

โดยดักจับอนุภาคของเสียและตะกอนที่ลอยอยู่ในน้ำ

การ संरक्षण

หล่อน้ำสับปะรดสีชมพู ไม่ถูกจัดอยู่ในสถานะที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ อย่างไรก็ตาม การทำลายแนวปะการัง และ มลภาวะจากมนุษย์

อาจส่งผลกระทบต่อประชากรของฟองน้ำชนิดนี้ได้

ดังนั้น การอนุรักษ์แหล่งที่อยู่อาศัยของฟองน้ำ และ ลดมลภาวะในทะเล จึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้หล่อน้ำสับปะรดสีชมพู ยังคงดำรงอยู่ต่อไป

ตารางสรุปข้อมูลสำคัญของหล่อน้ำสับปะรดสีชมพู:

หล่อน้ำสับปะรดสีชมพู เป็นตัวอย่างของความหลากหลายทางชีวภาพในมหาสมุทร ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมหัศจรรย์และความซับซ้อนของระบบนิเวศ

การศึกษาและอนุรักษ์ฟองน้ำชนิดนี้มีความสำคัญเพื่อคงไว้ซึ่งความสมดุลของธรรมชาติ